สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

ลืมรหัสผ่าน

ลืมรหัสผ่าน


หมายเหตุ : เราจะส่งวิธีการรีเซ็ตรหัสผ่าน ไปยัง E-mail ที่คุณได้สมัครด้วย username นี้ไว้

  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • ความรู้มะเร็งเต้านมสำหรับประชาชน
    • บทความทั่วไป
      • บทความทั่วไป
        • ดีกว่าการรักษาคือการป้องกัน: สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทยกับการผลักดันนโยบายตรวจหายีนส์มะเร็งเต้านมฟรี
        • พยาบาลวิชาชีพผู้ที่มุ่งพัฒนางานการพยาบาลดูแลผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้ผู้ป่วยเบื้องต้น
        • กล่องปทุมรักษา: เพื่อความแม่นยำในการวินิจฉัยชนิดของโรคมะเร็ง โดยคุณหมอคนไทยเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง
        • ความเป็นมาและเป็นไปของสมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย
        • สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทยเริ่มต้น
          และขับเคลื่อนด้วยการเป็นผู้ให้
        • ภาพแรกในวันนั้น ภาพร่างในวันนี้ และภาพสุดท้ายในอีกสิบปี
        • จาก “เป็นเท่ากับตาย”
          สู่ “ฟื้นฟูชีวิตใหม่”
        • ไอรีล ไตรสารศรี: Art for Cancer ศิลปะเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง
      • สารประกอบในถั่วเหลืองอาจช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งเต้านม
      • การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
      • การดื่มแอลกอฮอล์และความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม
    • อาการและการวินิจฉัยเบื้องต้น
      • รู้จักโรคมะเร็งเต้านม
        • มะเร็งเต้านมคืออะไร
        • ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม
        • อาการของมะเร็งเต้านม
        • การจัดการความกลัวที่มีต่อโรคมะเร็งเต้านม
      • การตรวจคัดกรองและการตรวจเพิ่มเติม
        • การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
        • การตรวจเต้านมโดยแพทย์
        • Mammogram
        • อัลตร้าซาวด์
        • การทดสอบ FISH (Fluorescence In Situ Hybridization)
        • การตรวจเต้านมด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
        • การตรวจชิ้นเนื้อ
        • การย้อมชิ้นเนื้อพิเศษ
        • การตรวจ Oncotype Dx
        • การตรวจทางพันธุกรรม
      • มะเร็งเต้านมของคุณเป็นแบบไหน
      • ชนิดของมะเร็งเต้านม
    • การรักษาและผลข้างเคียง
      • การวางแผนการรักษา
      • การผ่าตัด
        • การผ่าตัด ตอนที่ 1: การผ่าตัดแบบสงวนเต้านม
        • การผ่าตัด ตอนที่ 2: การผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด
        • การผ่าตัด ตอนที่ 3: การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม (Breast Reconstruction)
        • การผ่าตัด ตอนที่ 4: การผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้
        • การผ่าตัด ตอนที่ 5: การผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดเพื่อลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม (Prophylaxis Mastectomy)
      • ยาเคมีบำบัด
      • การรักษาด้วยฮอร์โมน
      • การรักษาแบบมุ่งเป้า
        • การรักษาด้วยยาต้านเฮอร์ทู
      • การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
      • การรักษามะเร็งเต้านมชนิดตัวรับเฮอร์ทู
        • การรักษามะเร็งเต้านมชนิดตัวรับเฮอร์ทู ในระยะเริ่มต้น
        • การรักษามะเร็งเต้านมชนิดตัวรับเฮอร์ทู
      • รังสีรักษา
      • การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
        • ยายับยั้งจุดตรวจสอบภูมิคุ้มกัน (Immune Checkpoint Inhibitors)
        • ยาต้านฮอร์โมน (Hormonal Therapy)
        • วัคซีนสำหรับโรคมะเร็ง (Cancer Vaccines)
        • การรักษาโดยการปรับแต่งเซลล์ภูมิคุ้มกัน (Adoptive Cell Therapy)
        • โปรตีนสื่อสารระหว่างเซลล์ (Cytokines)
  • ข่าวสารสมาคม
  • ติดต่อเรา

การวางแผนการรักษา

หน้าแรก   : :   การรักษาและผลข้างเคียง   : :   การวางแผนการรักษา

การวางแผนการรักษา

 

หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านม คุณและแพทย์ของคุณจะต้องเริ่มวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณตามผลการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา โดยวิธีการรักษาที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการรักษา และเพื่อลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งเต้านม คุณและแพทย์จะร่วมกันตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษา และต้องประเมินการตัดสินใจใหม่เป็นระยะๆ โดยมีทีมแพทย์ของคุณเป็นผู้แนะนำ

1. ลำดับแนวทางของการรักษา

ตัวอย่างลำดับของการรักษาที่พบมากที่สุด คือ:

  • โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดจะเป็นสิ่งที่ทำเป็นลำดับแรก สำหรับบางคนอาจรับการผ่าตัดเพื่อเอามะเร็งเต้านมออกและการผ่าตัดเพื่อสร้างเต้านมไปพร้อมๆ กัน
  • ถ้าคุณจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด คุณก็มักจะได้รับยาเคมีบำบัดเป็นลำดับที่สอง
  • การรักษาด้วยรังสีมักจะให้หลังจากสิ้นสุดการรักษาด้วยการผ่าตัดและยาเคมีบำบัดแล้ว
  • การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน (เช่น Tamoxifen หรือ ยาในกลุ่ม Aromatase Inhibitor) มักจะเริ่มต้นหลังจากการรักษาอื่นๆ หากผลการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาของก้อนมะเร็งมีตัวรับฮอร์โมนเป็นบวก

 

อย่างไรก็ตาม ลำดับการรักษานั้นเป็นเรื่องปัจเจกที่ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย คุณจึงควรพูดคุยกับแพทย์ของคุณเพื่อกำหนดลำดับการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง และคุณควรจะพูดคุยกับแพทย์ของคุณและแพทย์ทางศัลยกรรมตกแต่งในส่วนของการผ่าตัดเสริมเต้านม ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด

หากคุณจำเป็นต้องได้รับยาเคมีบำบัดหรือการฉายรังสีเพื่อรักษามะเร็งเต้านม ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะอ่อนแอลง หากคุณเคยเป็นโรคอีสุกอีใสตั้งแต่ยังเป็นเด็กหรือตอนอายุ 50 ปีขึ้นไป อายุและระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแออาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคงูสวัดที่มีผื่นอักเสบที่เจ็บปวดและรุนแรง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยควรได้รับวัคซีนก่อนที่จะเริ่มการรักษามะเร็งเต้านม แต่หากระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอคุณไม่ควรรับวัคซีนจนกว่าคุณจะได้รับการรักษาและฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันจนกลับมาเป็นปกติ

หากคุณเคยเป็นโรคอีสุกอีใสตอนเป็นเด็กหรือตอนมีอายุ 50 ปีขึ้นไป คุณควรถามแพทย์ว่า คุณควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดก่อนที่จะเริ่มการรักษามะเร็งเต้านมหรือไม่ ทั้งนี้ แม้คุณจะได้รับวัคซีนแล้ว คุณก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นโรคงูสวัดได้ แต่ผื่นจะเจ็บปวดและรุนแรงน้อยกว่า

2. ก่อนการรักษา: วางแผนล่วงหน้าเพื่อความอยู่รอด

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำให้ผู้ป่วยและแพทย์เริ่มวางแผนชีวิตหลังการรักษาให้เรียบร้อยก่อนเริ่มการรักษา เพื่อป้องกัน ลด หรือเตรียมความพร้อมสำหรับผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นของมะเร็งเต้านม เรียกว่า "การวางแผนเพื่อความอยู่รอด” การวางแผนเริ่มขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่การวินิจฉัยโรคมะเร็งและจะดำเนินต่อไปตลอดระยะเวลาการรักษา แต่โดยทั่วไปเมื่อเราพูดถึงแผนเพื่อความอยู่รอด เรามักจะกล่าวถึงเวลาหลังจากการรักษาเบื้องต้น เช่น การผ่าตัด การรักษาด้วยรังสีและยาเคมีบำบัด จนกระทั่งสิ้นสุด คุณอาจจะยังคงอยู่ระหว่างการรักษาระยะยาว เช่น การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมนหลังการรักษาหลักของคุณเสร็จสิ้นแล้ว

หลังการรักษาหลัก คุณอาจได้รับผลข้างเคียงทางกายภาพในระยะยาว ผลกระทบเหล่านี้อาจเริ่มในระหว่างการรักษา หลังจากรักษา หรือแม้กระทั่งหลายเดือน หรือหลายปีต่อมา ซึ่งจะแตกต่างจากผลข้างเคียงทันที เช่น อาการคลื่นไส้ในระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือการระคายเคืองผิวหนังในระหว่างการฉายรังสี ซึ่งมักจะหายหลังการรักษาทันที

หากคุณเป็นมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม คุณจะได้รับการรักษาไปตลอดชีวิตของคุณ ข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนการดูแลผลข้างเคียงจากการรักษาในระยะยาวด้านล่างนี้ อาจเป็นประโยชน์กับคุณ

ผลกระทบระยะยาวจากการรักษามะเร็งเต้านมที่อาจพบได้:

  • ความเจ็บปวด
  • ความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอ
  • ความผิดปกติของแขนส่วนบน: การจำกัดการเคลื่อนไหวของแขน
  • การบวมคั่งน้ำเหลือง (Lymphedema) บริเวณแขน มือ หรือร่างกายส่วนบนอันเป็นผลมาจากการผ่าตัดต่อมน้ำเหลือง
  • อาการปวดข้อ
  • โรคทางระบบประสาท ปวดชาและ/หรือรู้สึกเสียวนิ้วมือและนิ้วเท้า
  • ภาวะซึมเศร้า
  • ภาวะหมดประจำเดือน หรือภาวะมีบุตรยากจากการทำเคมีบำบัด
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น อ้วนขึ้น
  • ผลกระทบต่อหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคกระดูกพรุน
  • ปัญหาทางเพศ เช่น การสูญเสียแรงขับทางเพศ และการเปลี่ยนแปลงในช่องคลอดที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์เจ็บปวดหรือยากขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงในความทรงจำหรือความคิด (บางครั้งเรียกว่า "Chemobrain" แม้ว่าจะมีการเกิดภาวะนี้ในผู้ที่ไม่ได้รับยาเคมีบำบัดด้วยก็ตาม)

 

บ่อยครั้งที่ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเขาแย่ลง และผู้ป่วยอาจยอมรับและปรับตัวได้ว่านี่เป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตใหม่ของพวกเขา แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ป่วยและแพทย์ควรจะ:

1. ทบทวนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาวก่อนเริ่มการรักษา : วางแผนเป้าหมายชีวิตหลังการรักษาของคุณกับทีมของคุณ เช่น หากคุณเป็นศัลยแพทย์ นักไวโอลิน ช่างเย็บผ้าหรืออาชีพอื่นๆ ที่ต้องหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกี่ยวกับโรคทางระบบประสาท แพทย์ของคุณอาจสามารถหลีกเลี่ยงยาเคมีบำบัดที่มีผลข้างเคียงต่อปลายประสาท หากคุณต้องการมีลูกในอนาคต อาจมีวิธีในการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ของคุณ ดังนั้น การพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายการทำงานและเรื่องส่วนตัวของคุณ จะทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณได้

2. หาวิธีการป้องกันผลข้างเคียงรวมถึงวิธีการดูแล : เช่น การออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น การเดินเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน ช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าในระยะยาว การออกกำลังกาย การคุมอาหารและการลดน้ำหนักสามารถช่วยในการรักษาโรคกระดูกพรุน พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้ระหว่างและหลังการรักษาเพื่อรับรู้และจัดการกับผลข้างเคียง แพทย์ของคุณยังสามารถแนะนำคุณกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ที่สามารถช่วยคุณได้ เช่น ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ หรือจิตแพทย์

3. ติดต่อกับนักบำบัดที่เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูสภาพมะเร็งเต้านม : พวกเขาจะทำการประเมินผู้ป่วยก่อนการรักษา และคอยดูระหว่างการรักษา และหลังการรักษา บางครั้งเรียกว่า "การฟื้นฟูสมรรถภาพ"

4. ปรับตารางเวลาทำงานของคุณให้เหมาะสมกับการรักษามะเร็งเต้านม
วางแผนเป้าหมายชีวิตหลังการรักษาของคุณกับทีมของคุณ เช่น หากคุณเป็นศัลยแพทย์ นักไวโอลิน ช่างเย็บผ้าหรืออาชีพอื่นๆ ที่ต้องหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกี่ยวกับโรคทางระบบประสาท แพทย์ของคุณอาจสามารถหลีกเลี่ยงยาเคมีบำบัดที่มีผลข้างเคียงต่อปลายประสาท หากคุณต้องการมีลูกในอนาคต อาจมีวิธีในการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ของคุณ ดังนั้น การพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายการทำงานและเรื่องส่วนตัวของคุณ จะทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณได้

โดยในการวางแผนปรับเวลานั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามประเภทการรักษา ดังนี้:

  • การผ่าตัด
  • ยาเคมีบำบัด
  • รังสีรักษา
  • ยาต้านฮอร์โมน
  • การรักษาด้วยยาแบบพุ่งเป้า (Targeted therapy)
  • ข้อกังวลจากการวางแผนทั่วไป

 

การผ่าตัด
คนส่วนใหญ่จะต้องหยุดทำงานเมื่อได้รับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบสงวนเต้านม ผ่าตัดทั้งเต้านม หรือการผ่าตัดร่วมกับการเสริมสร้างเต้านมใหม่ ระยะเวลาที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดที่คุณได้รับและการฟื้นตัวของคุณ โดยแพทย์และพยาบาลของคุณสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาที่คุณจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลสำหรับการผ่าตัด หากคุณผ่าตัดแบบสงวนเต้านม โดยปกติคุณจะสามารถกลับบ้านได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน และอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นถึงหนึ่งหรือสองสัปดาห์ หากคุณได้รับการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด การอยู่โรงพยาบาลของคุณอาจนานกว่านั้น

การฟื้นตัวอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงชนิดของการผ่าตัดเต้านมที่คุณได้รับและการฟื้นฟูของร่างกาย หากคุณมีโครงการที่สำคัญในที่ทำงาน หรือวันหยุดพักผ่อนตามแผนที่วางไว้ ก็อาจจะชะลอการผ่าตัดได้นานถึง 2-3 สัปดาห์ ในขณะที่มะเร็งยังไม่ลุกลาม

หลังการผ่าตัด และต้องมีการใส่สายระบายน้ำบริเวณแผลผ่าตัด อาจเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้หากคุณต้องการที่จะเดินทาง หลังจากการผ่าตัดครั้งใหญ่จะเป็นช่วงเวลาของการฟื้นตัว ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะออกจากโรงพยาบาล คุณควรพักในสถานที่ที่สะดวกสบายและไม่ไกลจากสถานพยาบาล

ยาเคมีบำบัด
การทำกิจวัตรประจำวันของคุณนั้น ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะสามารถทนต่อผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดได้หรือไม่ ผู้หญิงบางคนสามารถทำงานต่อไปได้โดยมีอาการข้างเคียงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ผู้หญิงบางคนจำเป็นต้องพักฟื้น และไม่สามารถทำงานได้

ในการให้ยาเคมีบำบัดแต่ละครั้ง ทีมแพทย์ของคุณจะสามารถคาดการณ์ได้ ว่าเมื่อไหร่จะเป็นวันที่เหมาะสม ทีมแพทย์สามารถที่จะช่วยคุณในการวางแผนชีวิตของคุณในระหว่างการรักษา สมมติว่าคุณกำลังรับการรักษาทุกๆ สามสัปดาห์ สัปดาห์แรกถึงสัปดาห์ที่สองหลังการรักษาคุณอาจมีอาการคลื่นไส้เหนื่อยและอ่อนไหวต่อการติดเชื้อ ภายในสัปดาห์ที่สามคุณอาจรู้สึกดีกับการทำงานหรือเดินทาง สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าตารางการรักษาของคุณสามารถยืดหยุ่นได้ คุณสามารถพูดคุยกับแพทย์ของคุณ เพื่อปรับตารางการรักษาให้เหมาะกับแผนชีวิตของคุณ แม้ว่าการเริ่มต้นรักษาด้วยยาเคมีบำบัดของคุณอาจช้าไปเล็กน้อย แต่ทีมแพทย์สามารถจะจัดตารางเวลาใหม่ให้กับคุณได้

สำหรับผู้ที่เป็นโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย โดยปกติแพทย์ของคุณสามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะกับแผนชีวิตของคุณได้ แม้ว่าคุณจะมีโรคที่กำลังพัฒนาและก่อให้เกิดอาการ แต่ทางที่ดีที่สุดคือควรรับรักษาทันที

รังสีรักษา
คุณยังสามารถทำงานได้ในขณะที่เข้ารับการฉายรังสี โดยตารางการฉายรังสีของคุณมักจะเป็น 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 5 ถึง 7 สัปดาห์ โดยมักจะเป็นการนัดหมายสั้นๆ เนื่องจากกระบวนการรักษาใช้เวลาเพียง 15 ถึง 30 นาที ศูนย์หลายแห่งเปิดทำการเร็วและปิดช้าเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาสามารถไปทำงานได้ปกติ โดยทั่วไปการฉายรังสีจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงานของคุณ คนส่วนใหญ่มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดจากการรักษาด้วยรังสี เมื่อคุณเริ่มการรักษา คุณควรเข้ารับการรักษาตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง

การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน
ยาต้านฮอร์โมนส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบเม็ด ซึ่งจะไม่เป็นปัญหากับตารางเวลาของคุณ แต่หากผลข้างเคียงของการรักษาส่งผลกระทบต่องานประจำของคุณ คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อเปลี่ยนการรักษา

การรักษาด้วยยาแบบพุ่งเป้า
ยาพุ่งเป้าแต่ละชนิดมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยาที่คุณใช้ ยาที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคือ Trastuzumab (ชื่อทางการค้า: Herceptin) เป็นยาที่ได้รับทางการฉีดเข้าเส้นเลือด ในขณะที่ Lapatinib (ชื่อทางการค้า: Tykerb) ซึ่งเป็นยาที่ใหม่กว่า มีลักษณะเป็นยาเม็ด

ปฏิกิริยาของแต่ละคนต่อการรักษาด้วยยาพุ่งเป้านั้นแตกต่างกันไป เมื่อคุณรู้ว่าคุณจะมีอาการตอบสนองอย่างไร ทีมแพทย์ของคุณก็จะสามารถวางแผนในการรักษาให้เหมาะสมกับคุณได้

ความรู้มะเร็งเต้านม อื่นๆ

สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย

อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ชั้น 11 เลขที่ 2 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

  • 08-5243-3500
  • 0-2716-5957
  • thaibreast@thaibreast.org
สำหรับบุคคลทั่วไป
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • ความรู้มะเร็งเต้านมสำหรับประชาชน
  • ข่าวสารสมาคม
  • ติดต่อเรา

สำหรับแพทย์และพยาบาล

กรุณาสมัครสมาชิก
เพื่อใช้งานได้ครบทุกส่วน

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2564 สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย. นโยบายความเป็นส่วนตัว