![]() |
นายแพทย์ประกาศิต จิรัปปภา หน่วยศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี |
ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในการตรวจเต้านมและการส่งเสริมการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ทำให้ค้นพบมะเร็งในระยะแรกๆได้มากขึ้น และทำให้อัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น การผ่าตัดซึ่งเป็นการรักษาหลักได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงจากอดีตที่มุ่งเน้นเพียงการรอดชีวิต เป็นการผ่าตัดที่จะคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและความสวยงามมากขึ้น สำหรับในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมก็เช่นเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นต้องถูกตัดเต้านมออกหมดทุกรายหรือในรายที่จำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออก ก็สามารถทำการผ่าตัดสร้างเสริมเต้านมได้ทันทีในการผ่าตัดนั้น ด้วยการใช้เต้านมเทียมหรือการใช้เนื้อเยื่อของตัวผู้ป่วยเอง เนื้อเยื่อที่นิยมได้แก่ กล้ามเนื้อและชั้นไขมันบริเวณหน้าท้อง และกล้ามเนื้อและไขมันบริเวณที่หลัง วิธีการผ่าตัด Latissimus Dorsi (LD) flap เป็นวิธีที่ใช้ในการผ่าตัดเพื่อสร้างเนื้อเต้านมขึ้นใหม่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมที่ต้องการทำการผ่าตัดเต้านมออก ซึ่งวิธีการนี้จะใช้ผิวหนังกล้ามเนื้อ Latissimus Dorsi และไขมันบริเวณหลังมาผ่าตัดตกแต่งเสริมภายหลังการผ่าตัดเลาะเนื้อเต้านมออกทั้งหมด (รูปที่ 1, 2) |
|
|
รูปที่ 1 | รูปที่ 2 |
การผ่าตัดใช้กล้ามเนื้อที่หลังเป็นวิธีหนึ่งที่ทำมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากผู้ป่วยฟื้นฟูสุขภาพได้เร็วกว่าการใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นวิธีการที่ปลอดภัยมีผลแทรกซ้อนน้อย ระยะการนอนรักษาตัวอยู่ ร.พ.เทียบเท่ากับการผ่าตัดในมะเร็งเต้านมตามปกติคือประมาณ 3 วัน สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ทั้งในแง่ตัวผู้ป่วยเอง ครอบครัวและสังคม แม้ว่าการผ่าตัดสร้างเต้านมใหม่โดยใช้กล้ามเนื้อและไขมันบริเวณหลัง (LD flap reconstruction) จะดูยุ่งยากเล็กน้อยแต่ก็เพิ่มเวลาในการผ่าตัดไม่มากนัก และเนื่องจากวิธีการนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เต้านมเทียมช่วยเสริม แต่ใช้เพียงแผ่นผิวหนังและชั้นไขมันบริเวณหลังรวมไปถึงกล้ามเนื้อ LD ของตัวผู้ป่วยเองทั้งหมด ดังนั้นผลของการผ่าตัดในระยะยาวแล้ว จะได้ลักษณะของเต้านมที่สร้างขึ้นใหม่ เหมือนเต้านมจริงมากที่สุด ทั้งในด้านรูปร่างและลักษณะเนื้อเต้านมจากการสัมผัส สร้างความพึงพอใจ และความรู้สึกว่ายังมีเต้านมอยู่เช่นเดิมได้เป็นอย่างดี หลักเกณท์ในการคัดเลือกผู้ป่วยที่จะทำผ่าตัดสร้างเต้านมใหม่ด้วยการใช้กล้ามเนื้อ Latissimus Dorsi ได้แก่ 1. ผู้ป่วยที่มีเต้านมขนาดเล็กถึงปานกลาง 2. ผู้ป่วยที่มีเต้านมหย่อนคล้อย ไม่มาก 3. ผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องมาตกแต่งได้ เนื่องจากมีรอยแผลเป็นบริเวณหน้าท้องมาก่อน 4. ใช้ผ่าตัดเสริมเพื่อแก้ไขในผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดเสริมเต้านมด้วยวิธีอื่นมาก่อน การเลาะกล้ามเนื้อ LD มีอยู่ 2 วิธี คือ 1. Latissimus Dorsi miniflap คือการเลาะเอากล้ามเนื้อLD บางส่วนให้เพียงพอปิดเต้านมยุบผิดรูป (breast defect) หลังทำ lumpectomy |
![]() |
![]() |
รูปที่ 3 | รูปที่ 4 |
2. The extended LD flap technique เป็นเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดทำเต้านมใหม่ทั้งเต้า ซึ่งวิธีการนี้จะใช้กล้ามเนื้อLDมาทั้งหมดรวมทั้งแผ่นผิวหนัง เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ชั้นไขมันรอบๆ ทำให้ได้เนื้อเยื่อปริมาณเพียงพอสำหรับทำเต้านมใหม่ หลังการผ่าตัดเลาะเนื้อเต้านมออกทั้งหมด (รูปที่ 4) สภาพผู้ป่วยหลังผ่าตัด หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีแผลผ่าตัดบริเวณเต้านมข้างที่ทำผ่าตัด(รูปที่5)และแผลผ่าตัด donor site ซึ่งเป็นแผลเส้นตรงยาวประมาณ10-15 เซ็นติเมตร(รูปที่6) ที่หลังข้างเดียวกับที่ทำผ่าตัดเต้านมออก ซึ่งศัลยแพทย์จะผ่าตัดในแนวบริเวณขอบเสื้อชั้นในเพื่อเน้นความสวยงามของแผลหลังผ่าตัดสามารถใส่เสื้อในปิดรอยแผลผ่าตัดภายหลังแผลหายดีแล้ว และมีท่อระบายน้ำเหลือง 2 สาย จากแผลผ่าตัดเต้านมและแผลผ่าตัด donor site ที่หลัง |
![]() |
![]() |
รูปที่ 5 | รูปที่ 6 |
โดยทั่วไปผู้ป่วยที่รักษาส่วนใหญ่จะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลภายหลังผ่าตัดประมาณ 2 วันและจำหน่ายกลับบ้านพร้อมท่อระบายน้ำเหลือง และมาติดตามการรักษาหลังจำหน่ายกลับบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ สำหรับท่อระบายน้ำเหลืองจะคาไว้ประมาณ 10-14 วัน จึงถอดออก ส่วนวิธีการผ่าตัดอีกแบบหนึ่งคือ Transverse Rectus Abdominis Musculocutaneous flap หรือ TRAM flap ภายหลังการผ่าตัดเลาะเนื้อเต้านมออกทั้งหมด หมายถึงการผ่าตัดตกแต่งหรือเสริมสร้างเนื้อเต้านมขึ้นใหม่โดยใช้กล้ามเนื้อและชั้นไขมันบริเวณหน้าท้องมาผ่าตัดตกแต่งเสริมภายหลังการผ่าตัดเลาะเนื้อเต้านมออกทั้งหมด (รูปที่ 7) |
![]() ![]() ![]() |
รูปที่ 7 แสดงวิธีการผ่าตัดโดยใช้กล้ามเนื้อและชั้นไขมันบริเวณหน้าท้อง |
การผ่าตัดใช้กล้ามเนื้อและชั้นไขมันบริเวณหน้าท้อง เป็นวิธีหนึ่งที่ทำมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากเป็นวิธีการที่ปลอดภัยมีผลแทรกซ้อนน้อย ระยะการนอนรักษาตัวประมาณ 3-5 วัน สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ทั้งในแง่ตัวผู้ป่วยเอง ครอบครัวและสังคม หลักเกณท์ในการคัดเลือกผู้ป่วยที่จะทำผ่าตัดสร้างเต้านมใหม่ด้วยการใช้กล้ามเนื้อ และชั้นไขมันบริเวณหน้าท้อง ได้แก่ 1. เหมาะสมสำหรับเต้านมทุกขนาด ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม2. ผู้ป่วยที่มีเต้านมหย่อนคล้อยมาก สภาพผู้ป่วยหลังผ่าตัด หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีแผลผ่าตัดบริเวณเต้านมข้างที่ทำผ่าตัดและแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้องส่วนล่างสุดซึ่งเป็นแผลเส้นโค้งตามแนวพับของท้องซึ่งศัลยแพทย์จะผ่าตัดในแนวบริเวณหน้าท้องส่วนล่างสุดตามแนวขอบกางเกงในเพื่อเน้นความสวยงามของแผลหลังผ่าตัด อาการปวดสามารถระงับได้ด้วยยาแก้ปวดชนิดฉีดในวันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นสามารถระงับด้วยยาแก้ปวดชนิดรับประทาน หลังผ่าตัดไม่เกิน 24-48 ชั่วโมงผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถลุกนั่งบนเตียงและลุกเดินได้ โดยทั่วไปผู้ป่วยจะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลภายหลังผ่าตัดประมาณ 3-5 วันและจำหน่ายกลับบ้านพร้อมท่อระบายน้ำเหลือง และมาติดตามการรักษาหลังจำหน่ายกลับบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อติดตามผลของการผ่าตัดในระยะยาวแล้ว จะได้ลักษณะของเต้านมที่สร้างขึ้นใหม่ เหมือนเต้านมจริงมากที่สุด ทั้งในด้านรูปร่างและลักษณะเนื้อเต้านมจากการสัมผัส สร้างความพึงพอใจ และความรู้สึกว่ายังมีเต้านมอยู่เช่นเดิมได้เป็นอย่างดี (รูปที่ 8-9) |
![]() |
![]() |
รูปที่ 8 แสดงผู้ป่วยหลังผ่าตัดเต้านมขวาด้วยวิธีนี้ | รูปที่9 แสดงผู้ป่วยหลังผ่าตัดเต้านมขวาด้วยวิธีนี้และทำหัวนมขึ้นมาใหม่ร่วมกับสักสีบริเวณลานนม |
การผ่าตัดสร้างเสริมเต้านมขึ้นมาใหม่โดยใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง นอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ต้องทำการผ่าตัดเต้านมออกไป มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยลดปัญหาการผ่าตัดเต้านมหลายๆครั้งได้มากทีเดียว
ดังนั้นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ต้องทำการผ่าตัดเต้านมออกและต้องการเสริมสร้างเต้านมใหม่ วิธีการดังกล่าวนี้ จะเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยผู้ป่วยได้มาก แต่ต้องไม่ลืมปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนถึงผลดีผลเสียของวิธีการแต่ละวิธี |